มหัศจรรย์ซินเจียง-กานซู่
8 วัน 7 คืน
เฉิงตู-อุรู่ม่ฉี-ทูรูพาน-ตุนหวง-
เจียยวี่กวาน-จางเย่-อู่เวย-หลันโจว

สถานที่ท่องเที่ยว
  • อูรูมูฉี ทะเลสาบเทียนฉือ(รวมล่องเรือ)
  • ทูรูพาน เมืองโบราณเจียวเหอ ภูเขาเปลวเพลิง คานเอ๋อจิ่ง 
  • ตุนหวง ถ้ำโม่เกา มรดกโลกที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก
  • สระน้ำวงพระจันทร์ บ่อน้ำผุดที่ไม่เคยเหือดแห้งแม้จะอยู่กลางทะเลทราย
  • ด่านเจียยวี่กวาน ป้อมปราการที่แข็งแรงที่สุดในโลก 
  • ภูเขาสายรุ้ง (Zhangye Danxia Lanscape) ภูมิทัศน์มหัศจรรย์ของจีนอันงดงาม
  • หลันโจว อนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง กังหันวิดน้ำโบราณ “สุ่ยเฌอ”

     

กำหนดวันเดินทาง
วันเดินทาง ราคา พักเดี่ยวจ่ายเพิ่ม วีซ่าจีน
26 ส.ค. - 2 ก.ย. 62 44,999.- 6,000.- รวม
2 – 9ก.ย. 62 44,999.- 6,000.- รวม

โปรแกรมเดินทาง
keyboard_arrow_right
วันที่ 1 :: กรุงเทพฯ-เฉิงตู

14.30 น.

พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เกาะ U สายการบินเสฉวนแอร์ไลน์ (จอดส่งผู้เดินทางได้ที่ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูหมายเลข 9-10)

17.55 น.

นำท่านเหินฟ้าสู่นครเฉิงตูด้วยเที่ยวบิน 3U8146

21.45 น.

ถึงนครเฉิงตู เมืองเอกมณฑลเสฉวน มณฑลที่มีภูมิประเทศรายรอบไปด้วยเทือกเขา มีฤดูร้อนที่อบอุ่น ฤดูหนาวที่ไม่หนาวนักและมีปริมาณความชื้นสูง มีพื้นที่ประมาณ 567,000 ตารางกิโลเมตร ประชากรส่วนหนึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติต่างๆ ได้แก่ ชาวยี่ ธิเบต เมี้ยว หุย เชียง
นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้น พักที่โรงแรมที่สายการบินจัดให้
(โรงแรมคืนแรกที่สายการบินจัดให้ไม่มีห้องพักเดี่ยว)

keyboard_arrow_right
วันที่ 2 :: เฉิงตู - อูรูมูฉี - ทะเลสาบเทียนฉือ

เช้า

รับประทานอาหารแบบกล่อง ขณะเดินทางไปสนามบิน

08.10 น.

เดินทางโดยเที่ยวบินที่ 3U 8526 สู่อูรูมูฉี 

11.40 น.

ถึงท่าอากาศยานอูรูมู่ฉี เมืองอูรูมูฉี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเกียง ตั้งอยู่แถบเทือกเขาเทียนซาน มีความสูง 900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีประชากร 2.8 ล้านคน เป็นเขตปกครองตนเองที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มากที่สุดในจีน ประชากรทั้งมณฑลมีประมาณ 23.98 ล้านคน ชาวซินเจียงที่มีพลเมืองกว่า 70 % นับถือศาสนาอิสลาม มีภาษาหนังสือท้องถิ่นเป็นของตนเอง ในอูรูมูฉีจึงมีป้ายบอกชื่อสถานที่ต่างๆ 2 ภาษา คือภาษาท้องถิ่น (ภาษาเว่ยอู๋เอ่อร์) และภาษาจีนกลาง ซินเกียงถือเป็นจุดศูนย์กลางของเส้นทางสายไหมเป็นที่ที่เชื่อมต่อเส้นทางสายไหมทั้ง 3 เส้น ได้แก่ เหนือ กลาง ไต้ ทั้งสามเส้นนี้ล้วนผ่านซินเกียงทั้งหมด

13.00 น.

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
นำท่านสู่ทะเลสาบเทียนฉือ (ทะเลสาบสรวงสวรรค์) ที่มีความสูงถึง 1,900 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่มีฉากหลังเป็นยอดเขาหิมะสลับซับซ้อน (รวมค่ารถบัส รถแบตเตอรี่บนภูเขา หมายเหตุ ช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคมถึงจะสามารถล่องเรือได้)
นำท่านเข้าชมตลาดนัดขายสินค้าพื้นเมือง (บาซ่าร์) เพื่อชมชีวิตของชาวบ้านและเลือกซื้อของที่ระลึก เช่น ผ้าพันคอสีสวย เครื่องเงินแบบอาหรับ ผลไม้อบแห้ง เช่น องุ่น แอปริคอด กีวี อินทผาลัม เลือกซื้อเมล็ดอัลมอนอบแห้ง เมล็ดวอลนัตอบแห้ง และถั่วอบแห้งชนิดต่างๆ

20.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
พักที่  HOIDAK HOTEL (4 ดาว) หรือเทียบเท่า

keyboard_arrow_right
วันที่ 3 :: อูรูมูฉี-ทุรูพาน-ภูเขาเปลวไฟ-คานเอ๋อจิ่ง-เมืองโบราณเจียวเหอ-ชนเผ่าอุยกูร์

เช้า

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
เดินทางไปผ่านชมทุ่งหญ้าหนานซานมู่ฉาง ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ของมณฑลซินเกียง ชมวิถีชีวิตของชาวเผ่าฮาซะเค๋อที่พักอาศัยอยู่ในกระโจม แวะชมโรงงานพรมทอมือซินเกียงที่มีชื่อเสียง แล้วเดินทางสู่เมืองทูรูพาน ผ่านต้าป่านเฉิง โรงงานไฟฟ้าพลังลมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ชมกังหันลมที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า แล้วผ่านชม เหยียนหูทะเลสาบเกลือ อูรูมูฉี มีระยะห่างไกลทะเลถึง 2,000-3,000 กม. แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นดินเค็มและมีทะเลสาบเกลือเล็กๆหลายแห่ง สันนิฐานว่าเมื่อหลายล้านปีก่อน พื้นที่แถบนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน ต่อเมื่อมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ส่วนที่เป็นพื้นดินใต้ทะเลจึงได้พลิกขึ้นมาอยู่บนผิวโลก
เดินทางถึงทูรูพาน เมืองโอเอซีสอีกแห่งบนเส้นทางสายไหม เป็นเมือง 3 ที่สุดในเขตซินเกียง (1. ต่ำที่สุดในจีน ต่ำจากระดับน้ำทะเล 154.43 เมตร 2. ร้อนและแห้งที่สุดในจีน อุณหภูมิเฉลี่ย 35 องศาเซลเซียส เคยร้อนสูงสุดถึง 49 องศาเซลเซียส  3. ลมแรงสุด จึงมีโรงงานไฟฟ้าพลังลมหลายแห่ง)เมืองทูรูพานเป็นเมืองผลไม้ที่ลือชื่อของมณฑลซินเกียง มีทั้งองุ่น ลูกท้อ แอพริคอด แตงฮามี โดยเฉพาะองุ่นเป็นผลไม้ที่ปลูกมากที่สุด ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ ช่วงที่มีผลไม้มากที่สุดคือในระหว่างเดือน ก.ค.–ส.ค. ในช่วงดังกล่าวจะมีงานเทศกาลองุ่นเป็นงานประจำปี 

นำท่านไปชม ฝอเยี่ยนซาน หรือ ภูเขาเปลวไฟ ซึ่งเป็นสถานที่ที่กล่าวถึงในนวนิยายไซอิ๋ว ตอนที่ซุนหงอคงไปยืมพัดกายสิทธิ์จากองค์หญิงพัดเหล็กมาดับไฟในภูเขาเปลวไฟ เพื่อให้พระถังซำจั๋งได้เดินทางไปเชิญพระไตรปิฎกที่อินเดียต่อ ภูเขาเปลวไฟมีลักษณะเป็นเขาหินสีอิฐแดงทั้งลูก ไม่มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นเลย มองแต่ไกลจะเห็นเป็นสีเพลิงคล้ายไฟกำลังลุกไหม

14.00 น.

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
ชม คานเอ๋อจิ่งระบบชลประทานใต้ดินของทูหลู่พาน ซึ่งมีการต่อท่อเพื่อนำน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งบนภูเขาสูงลงมายังที่ราบแถบโอเอซีส โดยการขุดท่อใต้ดินเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำในฤดูร้อน 

นำชมเมืองโบราณเจียวเหอกู่เฉิน ที่มีอายุเก่าแก่กว่าเมืองโบราณเกาชางประมาณ 100 ปี เคยเป็นเมืองหลวงในยุคอาณาจักร CHESHI ถูกทำลายโดยสงคราม 40 ปี หลังสิ้นศตวรรษที่ 13 เข้าเยี่ยมหมู่บ้านชนเผ่าอุยกูร์ ชนชาติอุยกูร์เป็นชนเผ่าเก่าแก่ของภาคเหนือของจีน คำว่าอุยกูร์มีความหมายว่าสามัคคีกันและร่วมกัน ชาวอุยกูร์ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ทั่วซินเกียง ส่วนใหญ่อาศัยอยู่เมืองทางใต้ภูเขาเทียนซาน เช่น เมืองคาสือ เมืองเหอเถียน และเมืองอาคซู เป็นต้น ชนชาติอุยกูร์มีภาษาและอักษรของตนเอง เสื้อผ้าประจำชาติอุยกูร์คือ ไม่ว่าผู้ชายผู้หญิงผู้สูงอายุหรือว่าเด็กต่างใส่หมวกเล็กที่มีลายสี่เหลี่ยม ผู้ชายนิยมใส่ “เชียผั้น” ซึ่งเป็นเสื้อคลุมยาว ส่วนข้างในใส่เสื้อแขนสั้นที่มีลาย ผู้หญิงนิยมใส่กระโปรงและข้างนอกใส่เสื้อกั๊กสีดำ และชอบใส่เครื่องแต่งกายต่างๆ เช่น ต่างหู กำไลมือ แหวนและสร้อยคอ เป็นต้น สาวๆ นิยมถักเปียหลายเส้น แต่ปัจจุบันชาวอุยกูร์ในเมืองก็นิยมใส่เสื้อธรรมดา  ชมสวนองุ่น ผู่เถาหยวน เมืองทูรูพานเป็นเมืองผลไม้ที่ลือชื่อของมณฑลซินเกียง มีทั้งองุ่น ลูกท้อ แอพริคอด แตงฮามี โดยเฉพาะองุ่นเป็นผลไม้ที่ปลูกมากที่สุด ส่งขายทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะองุ่นอบแห้งเป็นที่รู้จักดีในท้องตลาดมานานแล้ว ช่วงที่มีผลไม้มากที่สุดคือในระหว่างเดือน ก.ค.–ส.ค. ในช่วงดังกล่าวจะมีงานเทศกาลองุ่นเป็นงานประจำปี 

20.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร *เมนูพิเศษ แกะย่างทั้งตัว
พักที่  MAIXI LAIPU HOTEL (4 ดาว) หรือเทียบเท่า

keyboard_arrow_right
วันที่ 4 :: ทูรูพาน-สถานีรถไฟหลิวหยวน-ตุนหวง-หมิงซาซาน-สระน้ำวงพระจันทร์

เช้า

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหาร โดยขบวนรถไฟที่..เดินทางสู่เมืองตุนหวง (จากทูรูพานนั่งรถไฟธรรมดาประมาณ 4 ชม. ถึงสถานีรถไฟหลิวหยวน แล้วนั่งรถบัสต่อไปตุนหวง ประมาณ 1.5 ชม.) โอเอซีสบนเส้นทางสายไหม เป็นเมืองชายแดนมณฑลกานซู่ที่ติดกับเขตปกครองตนเองชนชาติซินเกียง 

บ่าย

รับประทานอาหารกลางวัน (ระหว่างทางที่เวลาเหมาะสม)
นำท่านสู่เนินทราย “หมิงซาซาน” เทือกเขาทะเลทรายที่มีความยาว 40 ก.ม. สูงประมาณ 250 เมตร ทรายมีสีสันต่างกัน 5 สี คือ สีแดง เหลือง เขียว ขาว ดำ เมื่อท่านขึ้นถึงยอดเนินเขาทราย ท่านสามารถไถลลื่นลงมาสู่เชิงเขาด้านล่างอย่างสนุกสนาน หากโอกาสเหมาะท่านอาจได้ยินเสียงกลองรบ เสียงม้าร้อง และเสียงสู้รบ ตามตำนานเล่าว่าเคยมีกองทัพถูกพายุทรายพัดกระหน่ำและถูกฝังทั้งเป็นทั้งกองทัพอยู่ใต้ภูเขาทราย (รวมรถแบตเตอร์รี่) ชมสระน้ำวงพระจันทร์ บ่อน้ำผุดที่ไม่เคยเหือดแห้งแม้จะอยู่กลางทะเลทราย มีความลึกเฉลี่ย 6 เมตรเท่านั้น

20.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
พักที่  Grand Sun Hotel (4 ดาว) หรือเทียบเท่า

keyboard_arrow_right
วันที่ 5 :: ตุนหวง-ถ้ำโม่เกา-เจียยวี่กวน

เช้า

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
ชมถ้ำโม่เกา มรดกโลกที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก “โม่เกา” เป็นถ้ำที่มีคูหาใหญ่น้อยถึง 495 คูหา มีภาพวาดสีบนผนังสวยงาม มีพระพุทธรูปแกะสลัก และองค์เจ้าแม่กวนอิม ในคูหาต้นๆเป็นผลงานการบุกเบิกของพระสงฆ์เล่อจุนในปี ค.ศ. 366 ส่วนคูหาสุดท้ายขุดเมื่อยุคที่มองโกลมีชัยชนะเหนืออาณาจักรจีนในปี ค.ศ. 1277 ดังนั้นประติมากรรมหรือจิตรกรรมที่ท่านจะได้ชมที่ถ้ำโมเกาแห่งนี้ เกิดจากความเพียรพยายามของจิตรกรและช่างหลากยุคหลายสมัย ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่นับเนื่องยาวนานเกือบ 1,000 ปี แวะซื้อสินค้าของเส้นทางสายไหม “แก้วนิรัตติกาลแสง

14.00 น.

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร จากนั้นเดินทางสู่เจียยวี่กวน โดยรถโค้ช (4 ชั่วโมง)

19.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร *เมนูอาหารพื้นเมือง
พักที่  Jiayuguan Hotel - (4 ดาว) หรือเทียบเท่า

keyboard_arrow_right
วันที่ 6 :: เจียยวี่กวาน-ป้อมปราการ-ด่านเจียยวี่กวาน-จางเย่-ภูเขาสายรุ้ง-วัดพระใหญ่-หวู่เวย

เช้า

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเข้าชม ด่านเจียยวี่กวาน ที่สูงตระหง่านเป็นปราการที่แข็งแรงและสำคัญที่สุดในภาคตะวันตก  ชมป้อมปราการที่ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1372 สร้างแล้วเสร็จภายหลังสถาปนาราชวงศ์หมิง ชมลานจัตุรัสของป้อมปราการด้านในที่มีกำแพงรายล้อม ส่วนบนของกำแพงสูง 10 เมตร และยาว 640 เมตรเป็นที่ตั้งของหอระวังภัย สร้างขึ้นในปลายราชวงศ์หมิง-ต้นราชวงศ์ชิง ด้านหนึ่งทอดไปทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ สู่เทือกเขาฉีเหลียนซาน และอีกด้านหนึ่งทอดไปทางทิศเหนือสู่เทือกเขาเป่ยซาน ชมอนุสาวรีย์ด้านนอกของประตูตะวันตกสร้างขึ้นในราวปีที่ 14 ของจักรพรรดิเฉียนหลง มีคำจารึกว่า “ป้อมปราการที่แข็งแรงที่สุดในโลก” (รวมค่ารถแบตตารี่) แล้วเดินทางสู่ภูเขาสายรุ้ง (3 ชั่วโมง)

13.00 น.

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม เขตภูมิทัศน์จางเย่ ฉีเหลียนซานตันเสียตี้เม่า หรือ ภูเขาสายรุ้ง (Zhangye Danxia Lanscape) จัดเป็นหนึ่งในภูมิทัศน์มหัศจรรย์ของจีนอันงดงามแปลกตา ตั้งอยู่ในเขตภูเขาฉีเหลียนซาน จากตัวเมืองจางเย่ 40 กม. ครอบคลุมอาณาบริเวณกว้างขวางถึง 300 ตร.กม. ตั้งอยู่บนระดับความสูง 2,000-3,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในทางธรณีวิทยาสันนิษฐานว่ามีอายุมานานกว่า 2 ล้านปี ผ่านการกัดกร่อนของธรรมชาติ สายลม แสงแดด และความแห้งแล้งของภูมิประเทศ เผยให้เห็นถึงชั้นของแร่ธาตุใต้ดิน ที่บ้างเป็นริ้วเลื่อมลายหลากสีสันพาดผ่านทั้งเนินภูแลซับซ้อน บ้างเป็นหุบโตรกลึกชัน บ้างคล้ายดั่งปราสาทในดินแดนเทพนิยาย เกิดสีสันหลากสี เช่น ขาว เหลือง น้ำตาล เทา ส้ม ชมพู แดง ดูสวยงามน่าชม ทำให้เกิดจินตนาการอันหลากหลาย(ใช้เวลาเที่ยวชมประมาณ 2 ชั่วโมง) แล้วเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง “จางเย่” เป็นเมืองค่ายทหารที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในเส้นทางสายไหม ก่อตั้งเมื่อ 121 ปีก่อนคริสตกาล

เดินทางสู่วัดต้าฝอซื่อ(ใช้เวลา 1 ชั่วโมง) เพื่อชมพระพุทธไสยาสน์ในร่มที่ยาวที่สุดในประเทศจีน (ยาว 34.5 เมตร, สูง 7.5 เมตร วัดระหว่างไหล่บน-ล่าง) แล้วนำท่านชมเจดีย์ไม้โบราณย่ามู่ถะ สร้างสมัยราชวงศ์ถัง สูง 8 ชั้น 6 ชั้นแรกสร้างแบบก่ออิฐถือปูน ส่วน 2 ชั้นบนสุดเป็นเครื่องไม้ (ประตูปิด 17.00 น.)

แล้วเดินทางๆไปหวู่เวย (250 กม.ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง) หวู่เวยมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 5,000 ปี เป็นอดีตราชธานีเก่าเมื่อ 115 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่เชิงเขาฉีเหลียนซาน มีชื่อแต่เดิมว่าเมืองเลี่ยงโจว เป็นเมืองที่เป็นจุดพักที่สำคัญในเส้นทางสายไหมสายเหนือ อารยะธรรมและศาสนาจากอินเดีย ปากีสถาน หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศจีน ผ่านมาที่หวู่เวย ดังหลักฐานที่มีวัดวาอารามและผาพระแกะสลักมากมาย อูเวยมีการขุดพบรูปหล่อม้าบินสำริดในสมัยตงฮั่นที่เลื่องชื่อ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในเมืองหลันโจว หวู่เวยมีประชากร 1.93 ล้านคน ประกอบด้วยชนเผ่าหุย ฮั่น มองโกเลีย และ ถูเจีย

ค่ำ

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร ระหว่างทาง *เมนูอาหารพื้นเมือง
พักที่  XI LIANG HOTEL (4 ดาว) หรือเทียบเท่า

keyboard_arrow_right
วันที่ 7 :: หวู่เวย-สุสานฮันเหลยไถ-หลันโจว-แม่น้ำหวงเหอ-สะพานเหล็ก-กังหัน

เช้า

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านไปชมสุสานฮั่นเหลยไถ ในปี ค.ศ. 1969 ชาวนาได้ค้นพบสุสานที่สวนเหลยไท่ เป็นสุสานของขุนนางที่มาจากเมืองจางเย่ สุสานแบ่งออกเป็น 3 ห้อง ค้นพบของโบราณที่เป็นเครื่องทอง เครื่องเงิน เครื่องหยก เครื่องทองแดง และเครื่องปั้นดินเผา รวม 230 ชิ้น มีสิ่งที่ถูกฝั่งรวมเป็นเครื่องเซ่นเครื่องบวงสรวงได้แก่ ชุดรถม้า ม้า และพลขับ ทำด้วยทองแดง 99 ชุด แต่สิ่งล้ำค่าคือการค้นพบรูปหล่อบรอนซ์ม้าเหิรลม “หม่าเช่าหลงเซี่ย” รูปหล่อม้าที่กำลังเหิรลม เท้าม้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนหลังนกนางแอ่นที่กำลังบิน สูง 35 ซ.ม. ยาว 45 ซ.ม. หนัก 7 กก. ปัจจุบันสัญลักษณ์ “ม้าเหิน” ได้ถูกใช้เป็นโลโก้ (LOGO) ของการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่วนรูปหล่อม้าเหิรเหล่านี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลกานซู่เมืองหลันโจว

13.00 น.

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร แล้วเดินทางสู่เมืองหลันโจว เมืองเอกของมณฑลกานซู่
ชมตัวเมืองหลันโจว เมืองเอกของมณฑลกานซู่ มณฑลทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นจุดผ่านของเส้นทางสายไหมอันลือชื่อ เป็นเมืองอุตสาหกรรมปิโตรเลี่ยมและเครื่องจักรกลหนัก ในสมัยโบราณเคยเป็นถิ่นที่อยู่ของพวกซีหยง มีพื้นที่ 390,000 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 24 ล้านคน ตอนบนมีเขตแดนติดต่อกับมองโกเลียใน และ มองโกเลียนอก

นำชมอนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง (Huang He Mu Qing) “หวงเหอหมู่ชิง” ผลงานของศิลปินหญิงชาวจีนชื่อ “เหอเอ้อ” ตั้งอยู่ช่วงกลางถนนปินเหอลู่ สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1986 ประติมากรรมนี้สลักจากหินแกรนิต มีความยาว 6 เมตร กว้าง 2.2 เมตร และสูง 2.6 เมตร มีน้ำหนักกว่า 60 ตัน แกะสลักเป็นรูปผู้หญิงนอนมองลูกน้อยที่นอนอิงแอบอยู่ข้างๆด้วยแววตาที่สื่อถึงความรักความอบอุ่น รูปปั้นนี้เปรียบแม่น้ำหวงเหอ (ฮวงโห) เป็นเสมือนมารดาที่หล่อเลี้ยงลูกน้อย คือมวลประชาชาวจีนหลายร้อยล้านคนมายาวนานกว่า 4,000 ปี ถือว่าแม่น้ำหวงเหอเป็นต้นธารแห่งประวัติศาสตร์ชาติจีน นับเนื่องมาแต่ปฐมกษัตริย์ของจีนในยุคตอนต้น

ชมสวนกังหันวิดน้ำโบราณ “สุ่ยเฌอ” สองฟากฝั่งของหวงเหอในเขตเมืองหลานโจว มีกังหันวิดน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน ตั้งเรียงรายอยู่ถึง 252 กังหัน จนหลานโจวได้สมญานาม “เมืองหลวงแห่งกังหันน้ำของจีน”  

นำชมสะพานเหล็ก สะพานแรกของแม่น้ำเหลือง "หวงเหอตี้อี้เฉียว" ซึ่งออกแบบโดยวิศวะกรชาวเยอรมัน สะพานมีความยาว 233.33 เมตร กว้าง 7.5 เมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1907 ใช้งบประมาณเป็นเงินกว่าสามแสนตำลึง      

20.00 น.

รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร *เมนูอาหารพื้นเมือง
พักที่ CHANG XIN INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว

keyboard_arrow_right
วันที่ 8 :: หลันโจว-เฉิงตู-กรุงเทพฯ

เช้า

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วเดินทางไปยังสนามบิน

10.55 น.

เดินทางกลับเฉิงตู โดยเที่ยวบินที่ 3U 8061

12.25 น.

ถึงสนามบินเฉิงตู รอต่อเครื่อง

14.40 น.

เดินทางกลับสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินที่ 3U 8145

16.35 น.

กลับถึงสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าบริการ และเที่ยวบินการเดินทาง

อัตราค่าบริการรวม  ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ ชั้นประหยัด / ค่าที่พัก 2 ท่าน ต่อ หนึ่งห้องคู่  / ค่าภาษีสนามบินไทย 700 บาท, จีน 90 หยวน / ค่าวีซ่าประเทศจีน 1,650 บาท / ค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง /  ค่าประกันภัยทางอากาศ / ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุตามรายการ / ค่ารถรับส่งตามสถานที่ท่องเที่ยวระบุตามรายการ / ค่าบัตรผ่านประตูเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามรายการ / ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ที่มีน้ำหนักไม่เกินท่านละ 20 กิโลกรัม / ค่าประกันอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์

ค่าบริการไม่รวม  ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่ม นอกจากรายการ / ค่าทิปคนขับรถ 120 หยวน, ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น 120 หยวน และค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย 120 หยวน / ค่าทำหนังสือเดินทาง / ค่าทำเอกสารออกนอกราชอาณาจักรของผู้ถือหนังสือต่างด้าว / ค่าวีซ่าด่วน / ค่าวีซ่าของชาวต่างชาติ / ค่าภาษี 7 % และ ภาษี 3%

เงื่อนไข
สำรองที่นั่ง มัดจำ 20,000 บาท พร้อมแจ้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษตาม ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง 20 วัน

เงื่อนไขการยกเลิก  ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน-หักค่าใช้จ่าย 10,000 บาท / ยกเลิกก่อนการเดินทาง 21-29 วันขึ้นไป-เก็บค่าใช้จ่าย 20,000 บาท / ยกเลิกก่อนการเดินทาง 7-20 วัน-เก็บค่าใช้จ่าย 50 % ของราคาทัวร์ / ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-6 วัน - เก็บค่าบริการทั้งหมด 100 %

ความรับผิดชอบ บริษัทเป็นเพียงตัวแทนการท่องเที่ยว สายการบินและตัวแทนการท่องเที่ยวในต่างประเทศซึ่งไม่อาจรับผิดชอบต่อ
  • ความเสียหายต่างๆที่อยู่เหนือการควบคุมของเจ้าหน้าที่บริษัทฯ อาทิ การนัดหยุดงาน การจลาจล การเปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาในตารางบิน ภัยธรรมชาติ ฯลฯ  หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้น ทั้งทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ ฯลฯ
  • การตอบปฏิเสธการเข้าและออกเมืองของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าหรือออกเมือง อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฏหมาย หรือเอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง หรือการถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
หมายเหตุ
บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงรายการได้ตามความเหมาะสม / ในกรณีที่ไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ทัน อันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ ความล่าช้าและความผิดพลาดจากทางเรือ รถไฟ สายการบิน จะไม่มีการคืนเงินใดๆ ทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า / การไม่รับประทานอาหารบางมื้อ ไม่เที่ยวบางรายการ ไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะการชำระค่าทัวร์ เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย / บริษัทได้ทำประกันอุบัติเหตุไว้ให้กับลูกค้าในวงเงิน 1,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม / บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 10 ท่าน / บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงราคา โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ในกรณีที่มีการขึ้นลงของเงินตราต่างประเทศ หรือทีการปรับค่าธรรมเนียมต่างๆ

จองทริปนี้

กรุณากรอกข้อมูลด้านล่างให้ครบถ้วนเพื่อความรวดเร็วในการติดต่อกลับไปหาท่าน

ติดต่อเรา
MERRYLAND TRAVEL SERVICE CO., LTD.
1270-1272 ถ.พระราม4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทร. 082-453-9198, 063-190-9988
อีเมลล์ merrylandtravel.th@gmail.com
ใบอนุญาตเลขที่ 11/00183

 


certified member of
Copyright 2015 © Marrytravel. All rights reserved by siam-webdesign